Super 8 วิบัติลับมรณะซูเปอร์8 หนังมีชื่อผู้กำกับหัวทันสมัยอย่างเจเจ อับราหม์ (เจเจ ย่อมาจาก เจฟฟรี่ เจคอบ) ที่คืนชีพหนังมาแล้วสองเรื่อง อย่างมิสชั่นอิมพอสสิเบิ้ล3 – สตาร์เทร็ก เวอร์ชั่นใหม่ รวมไปถึงเป็นทีมผู้สร้างซีรี่ย์ Lost ติดเกาะหลงป่า ซึ่งคนที่ชอบหนังแนวลึกลับติดกันเกรียว ( ซีรี่ย์ Fringe ก็ด้วย) แต่ถ้าเรื่องที่คนคุ้นกันดีน่าจะเป็นหนังสิ่งลึกลับถล่มเมืองอย่าง Cloverfield ที่เจเจไปโปรดิวซ์ แต่คนเข้าใจว่ากำกับซะงั้นแหละ และ Super 8 ได้ สตีเว่น สปีลเบิร์ก มาเป็นผู้อำนวยการสร้างด้วย ซึ่งหนังมีอารมณ์แบบสปีลเบิร์กอยู่เพียบ
หน้าหนังชวนให้เราสนใจ เพราะพูดถึงสิ่งลึกลับที่อยู่ในขบวนรถไฟ ซึ่งกำลังเดินทางที่ถูกชนจนพินาศแล้วหลบหนีออกมา โดยมีเด็กกลุ่มหนึ่งที่บังเอิญไปอยู่ ณ.สถานที่แห่งนั้น เพื่อไปถ่ายหนังซอมบี้กันอย่างเอาจริงเอาจังเพื่อส่งเข้าเทศกาลหนัง ได้รับรู้เหตุการณ์ในระยะเผาขน รวมไปถึงกล้องถ่ายหนัง 8มม.
ที่บันทึกเหตุการณ์นั้นไว้ขณะที่ล้มลง (โปสเตอร์หนังก็เป็นมุมมองของกล้องตอนที่ล้มลงนั่นแหละ) และหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น โอไฮโอ ในยุค1970 เมืองเล็กๆของเขาที่เคยเงียบสงบ ก็มีเรื่องลึกลับหาคำตอบไม่ได้เกิดขึ้น ทั้งคนหาย หมาหาย ของหาย ไฟดับ เกิดความโกลาหลไปทั้งเมือง และยิ่งมีทหารอากาศเข้ามาวุ่นวาย ยิ่งไปกันใหญ่ แล้วตกลงเราจะถ่ายหนังของเราจนจบได้ไหมเนี่ย ว่าแล้วก็ต้องช่วยกันค้นหาว่า เกิดอะไรขึ้น
หนังวางปมเกี่ยวกับการสูญเสียของครอบครัวของเด็กสองคน ที่มีเหตุให้หัวหน้าครอบครัวของทั้งสองผิดใจกันด้วยเรื่องบางอย่าง และห้ามไม่ให้ทั้งสองได้คบหากัน แต่หลักๆเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของกลุ่มเด็กผู้ชาย ในวัยที่กะตือรือล้น วุ่นวายดีชะมัด เวลาเด็กกลุ่มนี้แย่งกันพูด ที่ใช้เวลามาถ่ายหนังโดยใช้กล้อง super8 นี่แหละ เหมือนผู้กำกับจะทำหนังระลึกถึงวัยเด็กของเขาเอง ที่ผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มา แต่ก็เสริมจินตนาการไปว่า ได้พบเจอกับสถานการณ์อันยิ่งใหญ่โตโครมคราม
หนังมีบรรยากาศย้อนยุค คืนวันเก่าๆอันงดงาม ชีวิตวัยเยาว์กับเพื่อนๆ ดูแล้วอาจจะนึกถึงสมัยเด็กๆ ที่เคยทำอะไรทำนองนี้กับเพื่อนๆ ใครที่คาดหวังหนังแนวแอ็คชั่นหนักๆ คงต้องเผื่อใจไว้บ้าง จะเป็นแนวการผจญภัยในมุมมองของเด็กๆ ซึ่งเผชิญกับสิ่งลึกลับเสียมากกว่า แต่ฉากไล่ล่าหนีตายก็ทำออกมาได้อย่างน่าติดตาม ฉากในรถทำเอาสะดุ้งขึ้นมาเชียว ส่วนฉากสงคราม ทำออกมาได้ประหลาดใจดี ว่าเด็กกลุ่มนี้มันรอดจากตรงนั้นได้ไง หนังเล่าได้อย่างไหลลื่น ถ้าไม่รวมช่วงท้ายๆที่ดูแล้วนึกถึงประเด็นของหนังเรื่องอื่นไปซะงั้นได้
