Hit & Run หนังกล่าวถึงรายละเอียดของ ชาร์ลี บรอนสัน (แด็กซ์ เช็พเพิร์ด) สมัยก่อนนักขับรถในกลุ่มชิงทรัพย์แบงค์ที่หนีออกมาจากแผนการปกป้องผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อขับขี่รถพาแฟนสาว (คริสเตน เบลล์) ของเขาไปยังลอส แอนเจลิสเพื่อสานฝันของคุณ ด้วยการเป็นคุณคุณครูสายอาชีพที่คุณเรียนมา แต่ว่าการเดินทางของพวกเขาก็ไม่ราบรื่นเมื่อถูกไล่ล่าโดยเจ้าหน้าที่รัฐ (ทอม อาร์โนลด์) ที่ต้องการจะนำตัวเขากลับมาป้องกันผู้เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งวุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อหัวหน้ากลุ่มชิงทรัพย์แบงค์ของเขา (กางรดลีย์ คูเปอร์) ที่พึ่งออกมาจากเรือนจำมา ก็มาตามล่าเขาอีกคนด้วยความแค้น การตามปัจจุบันปั่นป่วนที่มีเสียงฮามาเป็นตัวชูโรงก็เลยเริ่มขึ้นพร้อมฉากแอ็คชั่นขับขี่รถไล่ล่า
jumbo jili
หนัง โร้ด มูฟวี่ แนวขบขันก็มีไปแล้วไม่ว่าจะเป็น Due Date หรือแม้กระทั้ง The Hangover ส่วนแนวดราม่าก็พึ่งมีผ่านไปอย่าง On the Road ฉะนั้นก็อาจจะถึงเวลาสักครั้งที่จะมีหนัง โร้ด มูฟวี่ แนวใหม่ๆอย่าง แอ็คชั่น ที่ Hit & Run เป็นหนังโร้ด มูฟวี่ ไม่กี่เรื่องที่ทำแนวนั้น โดยหนังเป็นการดูแลของ 2 ผู้กำกับอย่าง เดวิด พลามเมอร์ แล้วก็ แด็กซ์ เช็พเพิร์ด ที่รายแรกนั้นเป็นผู้กำกับโนเนม ที่มีประวัติเคยควบคุมหนังสั้นเยอะแยะ ส่วนรายข้างหลังนั้นเป็นศิลปินตลกที่พวกเราอาจเคยคุ้นตาจาก When in Rome ที่ในเรื่องนี่ควบอีกทั้ง 3 ตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น ผู้กำกับ , มือเขียนบท แล้วก็ นำแสดง ซึ่งหากว่าฟังจากคอนเซปอย่างคร่าวๆของ Hit & Run ก็นับได้ว่าเป็นหนังที่น่าดึงดูดมากมายทีเดียว ที่จะนำเอาความเป็นหนัง โร้ด มูฟวี่ มาผสมกับ ฉากแอ็คชั่น แล้วก็ ความฮาเล็กน้อย ตามสไตล์ชวนขันของผู้กำกับรายนี้
สล็อต
ซึ่งนั้นจะเป็นการให้โอกาสให้หนังประเด็นนี้สามารถมีฉากแอ็คชั่นได้มากมาย โดยไม่ต้องพักผ่อนกันเลยสักหน่อย เนื่องจากว่าด้วยเหตุว่าตัวหนังนั้นเป็น โร้ด มูฟวี่ ก็เลยไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาพักผ่อนเพื่อใส่ฉากแอ็คชั่น แม้กระนั้นสามารถใส่ฉากขับขี่รถไล่ล่าเข้ามาเพื่อตัวเรื่องดำเนินต่อได้เลยอย่างสบาย และดูราวกับว่าผู้กำกับจะปฏิบัติตามแบบที่ว่า โดยการอัดแน่นมาด้วยฉากแอ็คชั่น ขับขี่รถไล่ล่า เกือบจะตลอดทั้งเรื่อง พร้อมกับพากเพียรจะใส่เสียงเฮผ่านมุกเฮฮาแนวอเมริกันที่เน้นย้ำเรื่อง คำพูดที่ไม่สุภาพและหยาบคาย รวมทั้ง เซ็กห์ แนว Wedding Crashers เป็นหลัก โดยหากผู้กำกับเป็นผู้ที่เคยมีความชำนิชำนาญด้าน ฉากแอ็คชั่น แล้วก็ มุกเฮฮา Hit & Run ก็คงเป็นหนังที่โอเคอยู่นะ
สล็อตออนไลน์
แม้กระนั้นมันกลับไม่ใช่อย่างที่ว่า เพราะว่าเพราะประสบการณ์ของผู้กำกับที่มิได้มีความชำนิชำนาญด้านอย่างว่ามาก่อน หนำซ้ำหนังที่พวกเขาพึ่งดูแลไปอย่าง Brother’s Justice ในแนวเดียวกันนี่ ก็ดูเหมือนจะโดนสับเหลวจากนักวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวก็ควรอย่าหวังที่กำลังจะได้อะไรมากยิ่งกว่านั้นจากเรื่อง Hit & Run เนื่องจากว่าเอาเข้าจริงๆแม้ว่าตัวหนังจะเต็มไปด้วยฉากขับขี่รถไล่ล่าที่ถ้ามองแต่ว่าภาพ โดยไม่เปิดเสียงก็คงจะคิดเองเอ้อเองไปได้ว่า ‘มันจริงๆ’ แต่ว่าเนื่องแต่ในโรงหนังไม่มีตัวเลือกอย่างว่า มันเลยกลายเป็นว่าพวกเราจะต้องมานั่งทนมองฉากแอ็คชั่นที่ควบคุมคิวออกมาค่อนข้างจะดี แต่ว่าในด้านของเสียงประกอบกลายเป็นความหายนะครั้งใหญ่ เพราะเหตุว่าผู้กำกับไม่สามารถที่จะตัดต่อเพลงแนว อินดี้ คันทรี่ แล้วก็ ร็อค ให้กับฉากแอ็คชั่นได้เลยสักหน่อย ก็เลยทำให้หนังเสียวัตถุดิบหลักไปแล้วหนึ่ง
jumboslot
โดยถ้าหนังเสียวัตดุดิบดีๆไป หนึ่งอย่าง แต่ว่าสามารถนำเอาเครื่องปรุงมาใส่เพิ่มรสให้ตัวของกินกลับมาอร่อยได้ ก็จะดูราวกับว่าเกิดเรื่องที่ดี แต่ว่าก็โชคร้ายที่ Hit & Run กลับทำอย่างงั้นมิได้เช่นเดียวกัน เพราะว่าในด้านข้อความสำคัญรองอย่าง มุกเฮฮา ก็กลับทำออกมาได้แป๊กและก็จืดชืดสนิท หากแม้จะเต็มไปด้วยมุกเหตุการณ์เยอะมาก แต่ว่าเนื่องจากความห่าม แล้วก็ ดิบ เหลือเกิน ก็เลยทำให้จากที่มันคงจะขำเปลี่ยนเป็นเอือมสุดจะทนเสียมากกว่า ด้วยเหตุนั้นสิ่งที่ยอดเยี่ยมก็เลยเห็นจะเป็นด้านของดาราหนังที่สร้างสีสันได้พอเหมาะไม่ว่าจะเป็น คริสเต็น เบล แล้วก็ กางรดลี่ คูเปอร์ ที่รายข้างหลังแม้ตัวบทจะจืดชืดสุดๆแม้กระนั้นด้วยเสน่ห์ความเป็นชายหนุ่มฮ๊อตก็เลยไม่แปลกที่ออร่าจะประกายมาเป็นช่วงๆไม่ต่างจากดาราหนังสาวอปิ้ง คริสเต็น เบล ที่ออกแนวรั่วๆแต่ว่าก็ยังมีความน่ารักน่าเอ็นดูออกมาเป็นระยะๆอย่างยิ่งจริงๆหละครับผม
slot
โดยเหตุนี้สรุปลแล้ว Hit & Run ก็เลยนับว่าเป็นหนังที่เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการฆ่าเวลาด้วยหนังแนว โร้ด มูฟวี่ แอ็คชั่นไล่ล่า ที่ทำออกมาพอได้เพียงแค่เพลิดเพลินๆเอียงไปทางน่าระอา ซึ่งลักษณะเด่นของหนังนั้นไปอยู่ที่ตัวของผู้แสดงอย่าง คริสเต็น เบล แล้วก็ กางรดลี่ คูเปอร์ ซึ่งสามารถเปล่งแสงออร่าขายเสน่ห์กันได้แบบไม่อายผู้ใด