เกิดเรื่องราวการเดินทางเสี่ยงภัยของผู้แสดง ใบเสร็จรับเงินโบ แบ็กกินส์ ผู้ไล่ต้อนไปสู่ภารกิจอันยิ่งใหญ่สำหรับในการทวงคืนอาณาจักรคนเล็กแกร็นที่เอเรบอร์ ที่สาปสูญภายหลังจากได้รับชัยจากมังกรสมอว์กมาอย่างช้านาน เขาถูกทาบทามโดยไม่รู้เรื่องโดยแกนดัล์ฟ บิดามดลึกลับ ใบเสร็จรับเงินโบพบว่าตนเองจำเป็นต้องร่วมทางกับคนเล็กแกร็นทั้งยัง 13 ที่นำโดยนักสู้ในตำนานอย่างธอริน โอเคนชีลด์ การเดินทางของพวกเขาจะนำพวกเขาสู่ป่ารกร้าง ท่ามกลางดินแดนที่ความไม่น่าไว้วางใจของสิ่งมีชีวิตล้นหลาม พร้อมกับพวกพราย , ก๊อบลินส์ รวมทั้ง ออร์ค ที่ระหว่างการเดินทางของการทวงคืนถิ่นฐานบ้านช่องของเหล่า คนเล็กแกร็น พวกเขาจะต้องพบอุปสรรค์มากมายก่ายกองอีกด้วย
jumbo jili
The Hobbit เป็นหนังภาคต้นก่อนจะมีการเกิดการทำศึกอันยิ่งใหญ่ใน The Lord of the Rings ที่แน่ๆว่าผู้กำกับก็น่าจะเป็นคนไหนกันไปมิได้ นอกเหนือจาก ปีเตอร์ แจ็คสัน ผู้กำกับผู้เดียวกับ The Lord of the Rings ทั้งยัง 3 ภาคนั้นเอง โดย The Hobbit ก็ยังคงเป็นหนังที่ปรับเปลี่ยนมาจากนิยายในชื่อเดียวกันของ เจ อาร์ อาร์ โทลเคี่ยน ที่ ปีเตอร์ แจ็คสัน ตกลงใจแยกหนัง The Hobbit ออกเป็น 3 ภาค (ทั้งๆที่หนังสือมีอยู่เพียงแต่เล่มเดียว) โดยในภาคแรกที่พวกเราจะได้มองกันนั้นชื่อ A Unexpected Journey
สล็อต
ซึ่งอันดับแรกผมก็จำเป็นต้องขอบอกก่อนเลยว่า ส่วนตัวผมโน่นออกจะเป็นผู้ที่ถูกใจ The Lord of the Rings มากพอควร เพราะว่าถือได้ว่าหนังในความจำดีๆของผมเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ โดยเหตุนี้ก็เลยไม่แปลกหากผมจะรู้สึกตื่นเต้นกับ The Hobbit พร้อมทั้งระบบฉาย HFR 3D สุดชัดเจน
สล็อตออนไลน์
แต่ว่าก็โชคร้าย เมื่อรอบสื่อที่ผมได้มองโน่นเปลี่ยนไปเป็นระบบฉาย 3D แบบเก่าแทน ถึงกระนั้นรวมทั้งช่างเถิด ด้วยเหตุว่าภายหลังจากผมได้ดู The Hobbit ในแบบ 3D แม้ว่ามันบางครั้งอาจจะมิได้เพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆหรือ ละลานตา อะไรมากไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ว่าในฉากการถ่ายทำทิวทัศน์ทัศนียภาพ รวมทั้ง ฉากต่อสู้ที่ใช้ คอมพิวเตอร์ กราฟฟิกหนักๆระบบ 3D สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ฉากพวกนั้นมองดูเหมือนจริง แล้วก็ มีมิติ ได้ดิบได้ดีในระดับนึง เหมือนกันกับขั้นตอนการดูแลหนังชุดนี้ของ ปีเตอร์ แจ็คสัน ที่พวกเราทุกคนคงจะมีความรู้สึกได้ว่า ตัวเรื่อง The Hobbit บางทีก็อาจจะเล่าแบบพองๆเฉื่อยๆและก็ไร้ซึ่งเสน่ห์ความคลั่งไคล้แบบ The Lord of the Rings เยอะพอควรเลยก็ว่าได้ขอรับ
jumboslot
แม้กระนั้นแล้ว ผู้กำกับ ปีเตอร์ แจ็คสัน ก็คล้ายกับว่ามีมนต์สะกดบางอย่าง ที่ทำให้พวกเรารู้สึกบันเทิงใจไปกับการเดินทางของเหล่า คนแคระแกร็น ตลอดระยะเวลา 164 นาที ได้อย่างไม่มีเบื่อ แถมยังหวนกลับสู่โลกที่ มิดเดิ้ลเอิร์ท ได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ใดกันแน่ที่เคยเป็นแฟนของ The Lord of the Rings มาก่อน คุณคงจะละเลยข้อบกพร่องต่างๆใน The Hobbit แล้วก็มัวละลานตาไปกับมนต์สะกดของ ผู้กำกับ ไปได้อย่างง่ายๆ
slot
โดยนักแสดงที่ตัวหนังมานะให้เด่น แล้วก็ สร้างเสริม มิติ ตัวหนังก็ยังสามารถติดต่อกับผู้ชมได้อย่างเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งตนให้นักแสดง ใบเสร็จรับเงินโบ้ แบ๊กกินส์ เป็นผู้ที่วันๆมัวแต่อยู่ในบ้าน กินนอนผู้เดียว สังคมมีแม้กระนั้นเขาผู้เดียว ไม่เคยพอใจคนใดกันแน่ กระทั่งวันนึงเขาจะต้องมาร่วมเดินทางเผชิญภัยกับคนกลุ่มมากมาย ที่สอนให้เขาได้ทราบขั้นตอนการอยู่ร่วมกัน การอยู่รวมในสังคม ว่าจะต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ความสำราญส่วนตัวเสียบ้าง ผสมไปกับฉากแอ็คชั่น เผชิญภัย ที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเสน่ห์ไม่ท่วมเท่า The Lord of the Rings แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า ในภาค An Unexpected Journey ก็ทำให้พวกเรารำลึกถึงภาค The Fellowship of the Ring